AIDA*** Day 1: The Journey Begin => what is the Free Fall?

[ghostpipe]

ตั้งใจไว้แล้วว่า หลังจากที่ฝึกซ้อมได้สักหนึ่งปี (จริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้ซ้อมต่อเนื่องมากมายนักหรอก) จะต้องไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปให้ได้

ก่อนไปก็ได้ลองติดต่อไว้หลายที่ เริ่มตั้งแต่ We Freedive ซึ่งเปิดโดย instructor ที่เคยเรียนด้วยเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ไปเปิดโรงเรียนของตนเองที่ภูเก็ตแล้ว แต่ก็ไม่เลือกเนื่องจากค่าเรียนของเขาเกินงบประมาณที่มีอยู่มากๆ ลองติดต่อไปที่เกาะลันตา Blue Planet Diver ดู ราคาเดิม แต่เปลี่ยน instructor ใหม่ทุกปี ก็ไม่แน่ใจว่าจะ work หรือเปล่า ยังลังเลอยู่

ส่วนที่เกาะเต่าของ Blue Immersion ก็เคยติดต่อไปก่อนหน้าหลายเดือนทาง e-mail แต่ก็ไม่ยอมตอบกลับมา นึกว่าไม่มาแล้วปีนี้ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจลองโทรไปถามที่ร้านตามที่เขียนไว้ในเว็บดู ปรากฎว่าได้คุยกับ instructor เลย ชื่อ Akim ก็เลยนัดหมายกัน จริงๆ แล้ว ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปประมาณกลางเดือนมีนาคม จองตั๋วรถแล้วด้วย ของลมพระยา แต่ถ้าได้ติดตามข่าวก็จะรู้ว่า ช่วงประมาณกลางถึงปลายเดือนมีนาคม มีอากาศหนาว และมีพายุเข้าก็เลยต้องเลื่อน พายุลูกแรกหมดไป กะว่าจะไปประมาณก่อนปลายเดือน มาอีกแล้ว คราวนี้หนักกว่าเก่าอีก ถึงขนาดเรือเร็วต่างๆ หยุดวิ่งข้ามไปเกาะเลย มีข่าวออกโทรทัศน์ด้วยว่า เรือรบต้องไปรับคนกลับจากเกาะเต่า น้ำท่วมภาคใต้ด้วย

สงสัยไม่ได้ไปแล้ว เพราะจะใกล้สงกรานต์เข้ามาทุกที่แล้ว และก็ต้องมีภาระกิจที่ต้องทำหลายอย่างเสียด้วย เอาอย่างไรดี ในที่สุดก็ตัดสินใจไปอย่างกระทันหันและรีบด่วน แบบประเภทว่าเก็บกระเป๋าหนีตามใครสักคนเลยแหละ

7 เมษายน 2554 13:00 น. มีกำหนดการต้องไป present ผลงานวิจัยที่ ปตท. สผ. เช้าโทรจองรถ จองเรือกับ บ. ลมพระยา ไปกลับ ขึ้นราคาอีกแล้ว 1,950 บาท เที่ยงเก็บกระเป๋าและอุปกรณ์ก่อนเลย บ่ายหอบกระเป๋ากับอุปกรณ์ไป present งานด้วย เสร็จงานราวบ่ายสามกว่าๆ จับ BTS ไป Dive Supply แถวพญาไท เปลี่ยนสาย Divecom ก่อน จวนเจียน จะขาดไม่ขาดแหล่ เดี๋ยวไปขาดกลางทะเล ตกน้ำไปเสียดายแย่ จากนั้น จับ taxi ไปถนนข้าวสาร แหล่งรวมคนจากหลากหลายเชื้อชาติ ที่ที่คนต่างชาติส่วนใหญ่ที่มาเมืองไทย ต้องมาตั้งต้นกันที่นี่

18:00 น. เริ่มกระบวนการต่างๆ ในการขึ้นรถ ตั้งแต่ รับตั๋ว 19:30 เช็คอิน ระบุที่นั่ง (กว่าจะได้ต้องต่อคิวกันยาวนานน่าดู) แล้วไปนั่งรอรถที่วงเวียนบางลำพู ที่อยู่ไปไม่ไกล (จริงๆ มีรายละเอียดอีกมากมาย ใครที่จะไปและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก็ไว้คุยกันทีหลังนะครับ)

21:00 น. The Journey Begin

[ghostpipe]

การเดินทางครั้งนี้ มีความรู้สึกว่าไม่พร้อมเลย เริ่มตั้งแต่ ลืมสายชาร์ทแบตโทรศัพท์ ลืมแผนที่ร้าน Good Time Adventure ที่เป็น host ให้ Blue Immersion (แล้วจะไปถึงร้านถูกไหมเนีย) ร่างกายก็ไม่พร้อม อดหลับอดนอนปั่นงานวิจัย ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก (ใช้สูตรพร่องแป้ง กินเยอะได้แต่ลดน้ำตาลและแป้ง) ซ้อมก็ไม่ได้ fit อะไรมากมาย ในใจก็คิดว่า คิดถูกหรือป่าวที่มาเนี่ย สรุปว่าไม่ค่อยพร้อมเท่าไร แต่ก็มาแล้ว ใจมันอยากมา

ประมาณ 4:30 น. ก็มาถึงท่าเรือทุ่งมะขามน้อย ซึ่งเป็นท่าเรือส่วนตัวของบริษัทเรือด่วนลมพระยา ก็นับว่าสะดวกดี ไม่ต้องไปหารถต่อที่ไหน แต่ว่าต้องมานั่งรอนานไปหน่อย แถมยังต้องเริ่มกระบวนการ check in เพื่อขึ้นเรืออีก จะอะไรกันนักหนา กว่าจะได้ขึ้นเรือ ก็ประมาณ 7 โมงกว่า late ไปเกือบครึ่งชั่วโมง ถึงเกาะเต่า ประมาณ 9 โมงครึ่งได้

ทีนี้หละปวดหัวเลย เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงยังไงยังงั้นเลย ไม่รู้จะไปไหน ทางซ้ายหรือขวาดีหว่า คนโน้นคนนี้ ถามว่าจะไป taxi ไหม ไอ้เราก็อย่างว่าเนอะ ไม่อยากเสียตังค์ ที่สำคัญไมีอยากเสียรู้ แล้วต้องมาเจ็บใจทีหลัง ลองเดินดูก่อน ร้านดำน้ำที่จะไปก็จำได้แต่ชื่อ ดีนะที่ mem เบอร์เอาไว้ก่อนจะมา ไม่งั้นแย่เลย แบตก็เกือบจะหมด เอาว่ะลุย เดินป่า เดินดอยยังยากกว่านี้อีก เริ่มจากถามคนแถวนั้นดูก่อน คงนึกว่าไอ้ร้านดำน้ำที่เกาะเต่าเนี่ยมันมีอยู่ร้านเดียวล่ะมั้ง สรุปว่าไม่มีใครรู้จักร้านนี้สักคน สุดท้ายก็ต้องโทรถามเจ้าของร้าน และก็เดินไป จริงๆ แล้วไม่ไกลเลย ประมาณ 10 นาทีก็ถึง อยู่แถวหาดทรายรี เพียงแต่เราไม่รู้ทางในตอนแรก ก็เหมือนกับคนตาบอดนั่นเอง เดินตัดซอยเล็กๆ มา แล้วขึ้นเนินอีกหน่อย ก็ถึงร้านแล้ว

10:00 น. ถึงเสียที่ Good Time Adventure สถานที่ที่เป็นที่ตั้งของ Blue Immersion หลังจากทักทายเจ้าของร้านชื่อ ชาลี แล้วก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสาวสวยนางหนึ่ง เธอแนะนำตัวว่าชื่อ Senia เป็นผู้ช่วยของ Akim (จริงๆ แล้วก็คือแฟน Akim นั่นเอง) ซึ่งขณะนั้นออกไปดำน้ำกับนักเรียนอยู่ เธอให้เรากรอกแบบฟอร์ม ต่างๆ ทั้งของ AIDA และ SSI บอกว่า เผื่อต้องการ 2 certificate ก็ทำได้เลย เพราะ Akim เป็น instructor ของทั้งสองสถาบัน กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง

กระบวนการต่อไปก็คือการหาที่พัก โชคดีที่ถ้าเป็นช่วงปกติ คือใกล้วันสงกรานต์ขนาดนี้ คงไม่สามารถหาที่พักได้ง่ายๆ เป็นแน่ แต่เผอิญมีข่าวพายุเข้าภาคใต้ เกาะเต่าเลยโดนหางเลขไปเต็มๆ คนมาเกาะน้อยมากกว่าปกติ จนเจ้าของ resort ต่างๆ หรือร้านค้าต่างๆ บ่นกันว่าแย่จริงๆ ปีนี้ คนหายไปจากเกาะเยอะมากๆ ได้ที่พักใกล้กับร้านดำน้ำมากๆ ใกล้ 7-11 ติดกับร้านขายข้าว ได้เวลาพักผ่อนแล้วเรา สี่โมงเย็นค่อยไปพบ Akim หลังจากพบกันเสร็จ ก็นัดแนะมาเจอกันพรุ่งนี้ 10:30 น.

[ghostpipe]

วันแรกของการเรียนก็เริ่มขึ้น ไม่เช้ามากเหมือนไปเรียนที่ลันตา ประมาณ 10:30 น. การเรียนทฤษฎีของที่นี่ ไม่ได้เน้นเรียนวันเดียวจบ แต่จะเรียนไปที่ละหัวข้อที่สำคัญ และเน้นเฉพาะที่เป็นของใหม่ที่ยังไม่ได้เรียนมาจากระดับที่ผ่านมา วันต่อๆ ไป ก็เรียนเรื่องอื่น ที่สอดคล้องกับการฝึกของวันนั้น

Exercise แรกที่เริ่มฝึกเลยก็คือ เทคนิคการหายใจ ครั้งนี้มีนักเรียนมาเรียนร่วมกับผมพร้อมกัน 5 คน มีทั้ง Master (คือ course พิเศษที่ Akim ออกแบบสำหรับคนที่ต้องการ จะไปสอบในขั้นสูง เช่น 4star หรือ instructor), 2 star and 3 star ใครอยากรู้จัก class mate ผม ก็เข้าไปดูได้ใน facebook ของ Blue immersion ครับ ลอง search ดู

Senia ให้นักเรียนทุกคนนอนราบ และฝึกการหายใจเข้าให้ถูกวิธี มีตั้งแต่ หายใจเข้าให้ท้องป่อง หน้าอกไม่ยก และหายใจเข้าให้เต็มปอด หน้าอกยกขึ้น การนับจังหวะหายใจเข้า 5 ออก 10 ที่เรียกว่าการ Breath up และการ Recovery Breathing คือการหายใจหลังจากที่เรากลั่นหายใจแล้ว

นอกจากนั้นก็มีการฝึก การ equalization ซึ่งเทคนิคที่แนะนำคือ Frenzel Akim ให้ทุกคนลองทำให้ดู ผมก็ทำให้ดู ตอนแรกก็คิดว่าทำถูก เพราะไม่ได้ใช่กระบังลมในการดันลมขึ้นมา ซึ่งวิธีนั้นเป็นเทคนิดที่เรียกว่า Valsava ก็เลยคิดว่าตัวเองทำได้

ต่อไป ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ก็ถึงเวลาออกทะเล ไปฝึกปฏิบัติแล้ว เรือจอดรออยู่ที่ชายหาดหน้าร้านอยู่แล้ว ใช้เวลาเดินทางจากร้านไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึงจุดดำน้ำแล้ว สะดวกดีจริงๆ

ทักษะแรกที่ผมต้องฝึกเลยก็คือการ warm up โดยการ Free Immersion แบบ Head First ลงไปช้าๆ ประมาณสัก 10 เมตร แล้วกลับขึ้นมา ก่อนลงทุกครั้งก็ต้องมีการ Breath up ประมาณ 2 นาที ทุกครั้งครับ จุดสำคัญอยู่ที่ว่า คุณจะเอื้อมมือไปคว้าเชือกอย่างไร จะบีบจมูกเพื่อ equalize ตอนไหน นั่นเอง warm up 2 ครั้งนะครับ ความสำคัญของการ warm up ก็คือการกระตุ้น Mammalian Dive Reflex (MDR) นั่นเอง เป็นสิ่งที่ต้องกระทำครับ

ถัดไป คือการฝึก Constant Weight (CWT) เริ่มจากการ duckdive Akim ให้ผมแสดงให้ดู ผมก็ทำให้ดู จากที่เคยคิดว่าเราทำถูก จริงๆ แล้ว เทคนิคที่เราทำ ก็ถูกต้อง แต่เป็นคนละแบบกับที่ instructor บอกว่ามีประสิทธิภาพกว่า duckdive ที่ผมซ้อมมาเรียกว่า Folding duckdive ตามที่เขียนไว้ใน Manual of Freedive (น. 230-231) ซึ่งใช้ในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ตอนที่อ่านก็ไม่ได้ดูให้ดี ก็เลยไปซ้อมตามท่านี้ แต่วิธีที่ Akim ให้ใช้คล้ายกับวิธีที่เรียกว่า Square duckdive ใน Manual of Freedive (น. 249-250) ซึ่งไว้มีเวลาผมจะถาม Akim ว่าใช้ชื่อนี้หรือไม่อีกที วิธีนี้ก็ไม่ยากจนเกินไป ผมก็ทำได้ไม่มีปัญหา เทคนิคอยู่ที่การพับตัว 90 องศา ให้นุ่มนวล และการใช้แขน กวาดช่วยแบบ Breaststroke (ว่ายกบ) และก็การวางมือเพื่อบีบจมูกสำหรับการ equalize ให้ถูกต้อง หลังจากทดลองซักครั้ง 2 ครั้ง ผมก็ผ่านได้

ต่อไปก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับผมจริงๆ เลยก็คือ Free Fall ซึ่งผมเคยได้ยินพี่ Mee+ พูดถึงอยู่ พอรู้ทฤษฏีว่าคือสภาวะที่นักดำน้ำ ดำเลยจุดที่เป็น neutral แล้วนักดำน้ำก็จะจมลงไป แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก และตอนที่พวกเราไปซ้อมที่พัทยากัน ผมก็ไม่ได้ฝึกซ้อมเทคนิคนี้มาก่อนเลย คราวนี้ได้มาลองของจริง คือเราต้อง duckdive ลงไป แตะฟินสักประมาณ 12 kick แล้วหยุด ปล่อยให้ตัวจมลงไป ซึ่งเราต้องทำความคุ้นเคยกับความรู้สึกที่ว่าเรากำลัง free fall ให้ได้

ผมทดลองอยู่หลายครั้ง ก็ยังทำไม่ได้ เนื่องจากพยายามฝึก equalization แบบ Frenzel ไปด้วยพร้อมกัน (ซึ่งวิธีที่ผมใช้ มันไม่ใช่) ก็เลยเคลียหูไม่ค่อยได้ ลงไปได้แค่ประมาณ 10-12 เมตร ซึ่งเป็นระยะแรกที่เราเริ่มผ่าน nuetral มา ก็ยังไม่เห็นการ free fall ได้อย่างชัดเจน ปวดหูแล้ว ก็เลยไม่อยากฝืน กลับขึ้นมาลองใหม่อีก ก็ยังไม่ได้ จน Akim บอกให้ลองใช้เทคนิคการเคลียหูแบบเดิมที่ผมเคยใช้ คราวนี้ก็ลงได้ลึกขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากนักเพราะหูเริ่มล้าแล้ว ยังไม่ค่อยรู้สึกว่า Free Fall คืออะไร มากนัก สุดท้ายการฝึกวันแรกก็จบลง ด้วยอาการ หูเหนื่อย (ยืมคำพูดของพี่ๆ บางคนมาใช้)

หลังจากฝึกเสร็จเราก็นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง ที่โรงเรียนนี้มีธรรมเนียมคือ หลังฝึกเสร็จ instructor จะเชิญนักเรียนทุกคนร่วมทานข้าวมื้อแรกของวันร่วมกัน คล้ายๆ กับว่าเป็นธรรมเนียมของ Akim ที่จะให้ทุกคนไปนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทำนองนั้น ก็จบไปวันแรกด้วยดี ไม่มีอะไรเป็นปัญหา หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็กลับห้องพักผ่อน ไม่ได้ไปสัมผัสราตรีของเกาะเต่าแต่อย่างใดเลย ต้องเก็บแรง และถนอมตัวไว้เพื่อพรุ่งนี้ครับ

[toramarn]

นั่งเฝ้าจอรอตอนต่อไปด้วยใจระทึกครับ

[ghostpipe]

เฮๆ ดีใจมากๆ ครับ ที่แวะมาเยี่ยมกัน น้ำตาจะไหลเลย อยากเจอทุกท่านมากๆ ครับ อยู่ใน board คนเดียวมันเหงาๆ ครับ

คุณ Toramarn ว่างไหมครับ หาเวลาไปซ้อมด้วยกันไหม ชวน Ajake ไปด้วย นะ นะ

วันนี้จะพยายามเขียนตอนต่อไปให้ได้ครับ

[ajake]

รอตอนต่อไปอยู่นะครับพี่ชัช กำลังจะเริ่มกลับมาฝึก Freedive ต่อแล้วครับ อยากหาเวลาไปเรียน AIDA ด้วยครับ

[ghostpipe]

ตอนต่อไปอยู่ที่ Day 2 ครับ แต่ Day 3 ยังไม่มีเวลาเขียนเลย