AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
4 posters
หน้า 1 จาก 1
AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
มาตามที่สัญญาไว้แล้วครับ ตั้งใจว่าจะเขียนต่อจาก กระทู้เมื่อวาน แต่ผมว่าห้วข้อของการเรียนรู้วันนี้แตกต่างไปจากเมื่อวาน โดยประเด็นที่สำคัญของวันนี้ก็คือ Constant Weight with Fins และก็อย่างที่ผมตั้งหัวข้อไว้ว่า Line is your friend ก็คือประเด็นหลักที่ผมได้ฝึกซ้อมในวันนี้เลยครับ
เราเริ่มออกจากท่าเรือประมาณ 8:00 น ใช้เวลาประมาณ กว่า 2 ชั่วโมง จึงจะถึงหมู่เกาะห้า บรรยากาศบนเรือก็สบายๆ ครับ วันนี้มีพวกที่ไป scuba เพียง 4 - 5 คนเท่านั้น รวมแล้วทั้งลำก็ดูไม่หนาตา ไม่วุ่นวายเหมือนตอนที่เราไปแสมสารครับ แต่ที่ผมไม่ค่อยสะดวก และไม่ถนัดก็คงจะเป็นอาหารเช้าที่ฝรั่งมากๆ สำหรับคนไทยอย่างผม มันคือขนมครับไม่ใช่อาหาร ก็เป็นอันว่าอดกินข้าวเช้าเลย ร้านไก่ทอดที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็ดันไม่ขายวันอาทิตย์ซะนี่ ถ้าใครจะไปเรียนกับร้านนี้ก็ต้องเตรียมอาหารเช้า และแม้แต่กลางวันไปเองนะครับ จะได้ถูกปากและถูกใจ
ก่อนถึงหมู่เกาะห้า instructor Richard ก็เรียกพวกเราทั้ง 4 มารวมกัน เพื่อสอนวิธีการยืดเหยีดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ freedive ส่วนที่เน้นเป็ฯสำคัญเลยก็คือบริเวณคอ ซึ่งเป็นส่วนที่ผมว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ relax มากที่สุดถ้ามันยังตึงอยู่ มีหลายท่าด้วยกันครับ แต่ตอนนี้ผมยังจำไม่ได้หมดเลย เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะถ่าย VDO หรือ จดๆ มา แล้วค่อยมาสอนพวกเราที่หลังนะครับ นอกจากคอแล้วก็ยังมี ไหล่ อก หน้าท้อง และกะบังลม บางท่าผมก็ยังทำได้ไม่คล่องนัก
ประมาณเกือบ 10 โมงครึ่ง หลังจากพวก scuba กระโดดน้ำลงไปหมดแล้ว พวกเรา freediver ก็เริ่มขนอุปกรณ์ลง dinky แล้วก็ขับไปหามุมเหมาะ วันนี้เรามีเวลาในการฝึกประมาณ 3 ชั่งโมงจากนี้ไป instructor ทั้งสองคน ก็แยกกันไปทำการผูกทุน คนละอัน ทุนที่ว่าก็มีลักษณะคล้ายๆ ห่วงชูชีพตามเรือที่เราเคยเห็นแขวนไว้ในเรือโดยสารทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ แต่ที่ต่างกันก็คือ มีถุงผ้าอย่างดีหุ้ม และมีช่องให้เราใส่ของ มีห่วงเล็กไว้ให้เราเกาะ
หลังจากหย่อนเชือกที่ถ่วงด้วย weight ไปที่ความลึกประมาณ 10 เมตรแล้ว ผมกับคุณ Small ก็ฝึกด้วยกันกับ instructor Richard ส่วนอีกคู่หนุ่มสาวชาว sount aferica (แต่เป็นคนขาวนะครับ) ก็ไปฝึกกับ Sarah ที่อีกทุนซึ่งไม่ห่างกันมากนัก ณ จุดที่เราเลือกวันนี้ คลื่นและกระแสน้ำไม่แรงครับ กระแสมีบ้างนิดหน่อยพอให้ได้รู้สึก น้ำใสมองเห็นพื้นและกองหินที่อยู่ด้านล่าง ทั้งหมดเป็น sign และ เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับผมครับ แตกต่างอย่างมากๆ จากที่แสมสารราวกับฟ้ากับเหวเลยครับ ผมรู้สึกมั่นใจ และสบายๆ มากๆ
Preparation and Warm Up
เราเริ่มการฝึกตาม step ซึ่งใกล้เคียงกับที่เรียนจากเมื่อวานครับ เราเริ่มจากการ warm up ด้วย free immersion ซึ่งตอนนี้ใส่ fins เรียบร้อยแล้วนะครับ คว่ำหน้าลง คาบ snorkel เริ่มทำตัวให้ผ่อนคลาย เตรียมความพร้อม โดยการ breath up หายใจเข้าช้าๆ ออกก็ให้ช้ายิ่งกว่า อย่างที่พี่ Mee+ เคยสอนผมนั่นแหละครับ เข้า 4 ออก 7 หรือยาวกว่า ตอนนี้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ
เมื่อพร้อมก็หายใจ nice full breath แล้ว equalize ก่อนลงสักครั้งเพื่อช่วยให้ clear ได้ง่ายมากขึ้นตอนลงไป เอียงตัวด้านข้างเข้าหาเชือก ปักหัวลงไป ตามองเชือก สาวลงช้าๆ เป็นจังหวะพร้อม clear ไปตลอดทาง ขาเหยียดตรง ไม่กางออก เหยียดตรงแต่ไม่เกร็ง ซึ่งเทคนิคที่สำคัญก็คือเช่นเดิมครับ relax กล้ามเนื้อทุกส่วน เข้าไว้ ใช้แต่มือทั้งสองข้างในการสาวเชือกเท่านั้น
เราเริ่มออกจากท่าเรือประมาณ 8:00 น ใช้เวลาประมาณ กว่า 2 ชั่วโมง จึงจะถึงหมู่เกาะห้า บรรยากาศบนเรือก็สบายๆ ครับ วันนี้มีพวกที่ไป scuba เพียง 4 - 5 คนเท่านั้น รวมแล้วทั้งลำก็ดูไม่หนาตา ไม่วุ่นวายเหมือนตอนที่เราไปแสมสารครับ แต่ที่ผมไม่ค่อยสะดวก และไม่ถนัดก็คงจะเป็นอาหารเช้าที่ฝรั่งมากๆ สำหรับคนไทยอย่างผม มันคือขนมครับไม่ใช่อาหาร ก็เป็นอันว่าอดกินข้าวเช้าเลย ร้านไก่ทอดที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็ดันไม่ขายวันอาทิตย์ซะนี่ ถ้าใครจะไปเรียนกับร้านนี้ก็ต้องเตรียมอาหารเช้า และแม้แต่กลางวันไปเองนะครับ จะได้ถูกปากและถูกใจ
ก่อนถึงหมู่เกาะห้า instructor Richard ก็เรียกพวกเราทั้ง 4 มารวมกัน เพื่อสอนวิธีการยืดเหยีดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ freedive ส่วนที่เน้นเป็ฯสำคัญเลยก็คือบริเวณคอ ซึ่งเป็นส่วนที่ผมว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ relax มากที่สุดถ้ามันยังตึงอยู่ มีหลายท่าด้วยกันครับ แต่ตอนนี้ผมยังจำไม่ได้หมดเลย เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะถ่าย VDO หรือ จดๆ มา แล้วค่อยมาสอนพวกเราที่หลังนะครับ นอกจากคอแล้วก็ยังมี ไหล่ อก หน้าท้อง และกะบังลม บางท่าผมก็ยังทำได้ไม่คล่องนัก
ประมาณเกือบ 10 โมงครึ่ง หลังจากพวก scuba กระโดดน้ำลงไปหมดแล้ว พวกเรา freediver ก็เริ่มขนอุปกรณ์ลง dinky แล้วก็ขับไปหามุมเหมาะ วันนี้เรามีเวลาในการฝึกประมาณ 3 ชั่งโมงจากนี้ไป instructor ทั้งสองคน ก็แยกกันไปทำการผูกทุน คนละอัน ทุนที่ว่าก็มีลักษณะคล้ายๆ ห่วงชูชีพตามเรือที่เราเคยเห็นแขวนไว้ในเรือโดยสารทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ แต่ที่ต่างกันก็คือ มีถุงผ้าอย่างดีหุ้ม และมีช่องให้เราใส่ของ มีห่วงเล็กไว้ให้เราเกาะ
หลังจากหย่อนเชือกที่ถ่วงด้วย weight ไปที่ความลึกประมาณ 10 เมตรแล้ว ผมกับคุณ Small ก็ฝึกด้วยกันกับ instructor Richard ส่วนอีกคู่หนุ่มสาวชาว sount aferica (แต่เป็นคนขาวนะครับ) ก็ไปฝึกกับ Sarah ที่อีกทุนซึ่งไม่ห่างกันมากนัก ณ จุดที่เราเลือกวันนี้ คลื่นและกระแสน้ำไม่แรงครับ กระแสมีบ้างนิดหน่อยพอให้ได้รู้สึก น้ำใสมองเห็นพื้นและกองหินที่อยู่ด้านล่าง ทั้งหมดเป็น sign และ เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับผมครับ แตกต่างอย่างมากๆ จากที่แสมสารราวกับฟ้ากับเหวเลยครับ ผมรู้สึกมั่นใจ และสบายๆ มากๆ
Preparation and Warm Up
เราเริ่มการฝึกตาม step ซึ่งใกล้เคียงกับที่เรียนจากเมื่อวานครับ เราเริ่มจากการ warm up ด้วย free immersion ซึ่งตอนนี้ใส่ fins เรียบร้อยแล้วนะครับ คว่ำหน้าลง คาบ snorkel เริ่มทำตัวให้ผ่อนคลาย เตรียมความพร้อม โดยการ breath up หายใจเข้าช้าๆ ออกก็ให้ช้ายิ่งกว่า อย่างที่พี่ Mee+ เคยสอนผมนั่นแหละครับ เข้า 4 ออก 7 หรือยาวกว่า ตอนนี้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ
เมื่อพร้อมก็หายใจ nice full breath แล้ว equalize ก่อนลงสักครั้งเพื่อช่วยให้ clear ได้ง่ายมากขึ้นตอนลงไป เอียงตัวด้านข้างเข้าหาเชือก ปักหัวลงไป ตามองเชือก สาวลงช้าๆ เป็นจังหวะพร้อม clear ไปตลอดทาง ขาเหยียดตรง ไม่กางออก เหยียดตรงแต่ไม่เกร็ง ซึ่งเทคนิคที่สำคัญก็คือเช่นเดิมครับ relax กล้ามเนื้อทุกส่วน เข้าไว้ ใช้แต่มือทั้งสองข้างในการสาวเชือกเท่านั้น
แก้ไขล่าสุดโดย ghostpipe เมื่อ Mon Dec 21, 2009 1:37 am, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ghostpipe- จำนวนข้อความ : 210
Join date : 17/08/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
เรื่องความลึกไม่ใช่ปัญหาของผมแล้วในตอนนี้ แต่กลับเป็น positioning ไม่ว่าจะเป็นขากางเกินไป ต้องหุบขาเข้าหากัน ที่สำคัญและผมถูกดุมากที่สุด (ต้องบอกว่า Richard ก็มีดุนะครับ - don't laugh) ก็คือการทำตัวให้ stream line และต้องมองเชือกตลอดเวลา ในขณะที่ขึ้น คือผมติดกับการแหงนหน้ามามอง platform ตอนซ้อมที่แสมสารเพราะกลัวหัวชนนั่นแหละครับ ก็เลยต้องแก้กันหลายครั้งหน่อย การแหงนหน้าจะทำให้เกิดการ drag หรือต้านน้ำ ซึ่งถ่วงให้เราขึ้นสู่ผิวน้ำได้ช้าลงนั่นเอง เพราะฉะนั้นต้องมองเชือก โดยสายตาต้องอยู่ในระดับ horizontal ไปกับผิวน้ำตลอดเวลาเวลาขึ้น
ที่สำคัญอีกประการของ free immersion คือไม่เตะ fins ใช้มือได้อย่างเดียว ความจริงแล้วต้องไม่มี fins นะครับ แต่คราวนี้เป็นการ warm up ก็เลยไม่ได้ถอดออก เพื่อความสะดวกในการทำ CWT ต่อไปเลย จบการซ้อม warm up ของผมได้อย่างดีไม่มีปัญหาเรื่อง clear หูเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับคุณ small แล้วน่าเห็นใจครับ คือ ไม่สามารถลงได้เลย คือ clear หูไม่ได้เลย ผมเข้าใจว่าแกคงเครียดมากหนะครับ ผมสังเกตุเห็นอาการตั้งแต่ก่อนเริ่มลง dinky แล้ว แถมเมาเรืออีกด้วย ก็ไม่เป็นไรนะครับ คราวหน้าลองกันใหม่ ทำตัว ทำใจให้สบายๆ ครับ อาจต้องฝึกเรื่อง การ clear หู มาก่อน จะได้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
My first instructed Constant Weigth with Fins
Step ถัดไปหลังจากการอุ่นเครื่องแล้ว ก็คงจะเป็นสิ่งที่ผมรอคอย และเข้าใจว่าเป็น highlight ส่วนตัวของผมในการฝึกครั้งนี้เลยครับ จริงๆ แล้วแอบหวั่นๆ อยู่ในใจเหมือกันว่า จะทำได้ไหมเนี่ยเรา ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า โอ๊ย สบายอยู่แล้ว น้ำก็ใสจนมองเห็นพื้น คลื่นก็แทบจะไม่มี กระแสน้ำก็แผ่วเบา ทำได้อยู่แล้ว อันนี้เป็นจิตวิทยากับตัวเองครับ คิดบวก คิดบวกเข้าไว้ ช่วยลดความตึงเครียด สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง นี่คือการเตรียมความพร้อมทางจิตใจของผม ก่อนการเตรียมร่างกายครับ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีผลต่อกันเป็นอย่างมาก ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว คงเคยได้ยินกันนะครับ
เหมือนเดิมครับ preparation ทุกอย่าง พร้อมแล้ว ก็ duck dive ลงไป ตัวหมุนควงเป็นสว่านเลยครับ ไม่ต้องคิดว่าเชือกจะอยู่ตรงไหนเลย (ยังไม่ถึงตอนเฉาก๊วยนะครับ Nippon เดี๋ยวเฉาก๊วยจะตามมา) ผมก็เลยไม่ลงไปต่อ สิ่งที่ instructor บอกก็คือ ผมเตะ fins ขาซ้ายกับขวาแรงไม่เท่ากัน
เอาใหม่ ลองใหม่ ทีนี้เฉาก๊วยครับ อันนี้เป็นศัพท์ของ Nippon นะครับ อยากรู้ไปถามกันเอาเอง ว่ามีความเป็นมาอย่างไร instructor บอกว่าเกิดจาก too rush คือรีบ และแรงเกินไปในการทำ duck dive ต้อง smooth and gentle ครับ ต้องฝึกหลายครั้งเลยครับกว่าจะทำได้สวยงาม ซึ่งผมค้นพบเทคนิคแล้วครับ คือต้องใช้มือช่วยใน stroke แรกจนขาพ้นน้ำก็ค่อยเตะฟินนั่นเอง
เทคนิคสำคัญที่ต้องฝึกก็คือ หลังจากที่ duck dive แล้ว ก็ต้องเอี๋ยวตัวหรือบิดตัวไปหาเชือก มองเชือกตลอด แบบ stream line เช่นเดิมคือ ไม่แหงะ หน้าไปมองพื้น ตัว vertical ดิ่งลง และเตะ fins อย่างถูกต้อง คือ symetry สลับซ้ายขวา ทั้ง forward และ backward ให้กว้างเท่าๆ กัน พร้อมกับการ clear ถี่ๆ ไปตลอดทาง พูดแล้วเหมือนง่ายนะครับ แต่การที่จะฝึกได้อย่างนี้ก็ต้องซ้อมบ่อยๆ ครับ ผมก็ทำอยู่หลายทีจนกว่า Richard จะบอกว่าใช้ได้ OK จึงได้หยุด ไม่เฉาก๊วยแล้วนะครับ Nippon (แต่ไม่แน่ เวลาไปโชว์ที่แสมสารแล้ว อาจเฉาก๊วยอีกก็ได้ จะพยายามครับ ไม่งั้นก่อนไปแสมสารคราวหน้า ต้องกินเฉาก๊วยก่อนไปเพื่อแก้เคล็ดซะแล้ว)
อีกประเด็นที่สำคัญที่ผมต้องแก้สำหรับ CWT ก็คือกลับตัว และการขึ้นสู่ผิวน้ำ การกลับตัวคือเมื่อสุดปลายเชือกแล้ว เราสามารถคว้าเชือกได้ 1 ครั้ง ส่งที่เราควรทำก็คือการสาวเพื่อดึงตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำให้ได้ระยะทางมากที่สุด จะได้ไม่ต้องเตะ fins มากนั่นเอง ส่วนการขึ้นสู่ผิวน้ำมีหัวใจที่สำคัญสองประการคือ stream line คือไม่แหงนหน้า ตามองเชือกตลอดเวลา และการต้องฝีกให้รับรู้ได้ว่า เมื่อไรคือจุดที่ตัวเราจะเป็น possitive ซึงเป็นจุดที่เราไม่ต้องเตะ fins ในการทำให้ตัวลอยขึ้นมาอีกต่อไป ตัวเราจะลอยขึ้นไปเอง ซึ่งจุดนี้คือการ save หรือลดการ consoume O2 นั่นเอง และเป็นช่วงที่ relax ที่สุด เข้าใจว่าน่าจะเป็นประมาณ 10 เมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นจุดที่เราจะได้พบกับ buddy ที่มาคอย safty เราขึ้นสู่ผิวน้ำ ตาสบตากันไปตลอดทาง ถ้าคนที่เป็น buddy กันเป็นแฟนกันอยู่แล้วก็น่าจะดีมากๆ เลยนะ อิจฉาคู่ที่อยู่ line ข้างๆ จังเลย
ที่สำคัญอีกประการของ free immersion คือไม่เตะ fins ใช้มือได้อย่างเดียว ความจริงแล้วต้องไม่มี fins นะครับ แต่คราวนี้เป็นการ warm up ก็เลยไม่ได้ถอดออก เพื่อความสะดวกในการทำ CWT ต่อไปเลย จบการซ้อม warm up ของผมได้อย่างดีไม่มีปัญหาเรื่อง clear หูเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับคุณ small แล้วน่าเห็นใจครับ คือ ไม่สามารถลงได้เลย คือ clear หูไม่ได้เลย ผมเข้าใจว่าแกคงเครียดมากหนะครับ ผมสังเกตุเห็นอาการตั้งแต่ก่อนเริ่มลง dinky แล้ว แถมเมาเรืออีกด้วย ก็ไม่เป็นไรนะครับ คราวหน้าลองกันใหม่ ทำตัว ทำใจให้สบายๆ ครับ อาจต้องฝึกเรื่อง การ clear หู มาก่อน จะได้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
My first instructed Constant Weigth with Fins
Step ถัดไปหลังจากการอุ่นเครื่องแล้ว ก็คงจะเป็นสิ่งที่ผมรอคอย และเข้าใจว่าเป็น highlight ส่วนตัวของผมในการฝึกครั้งนี้เลยครับ จริงๆ แล้วแอบหวั่นๆ อยู่ในใจเหมือกันว่า จะทำได้ไหมเนี่ยเรา ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า โอ๊ย สบายอยู่แล้ว น้ำก็ใสจนมองเห็นพื้น คลื่นก็แทบจะไม่มี กระแสน้ำก็แผ่วเบา ทำได้อยู่แล้ว อันนี้เป็นจิตวิทยากับตัวเองครับ คิดบวก คิดบวกเข้าไว้ ช่วยลดความตึงเครียด สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง นี่คือการเตรียมความพร้อมทางจิตใจของผม ก่อนการเตรียมร่างกายครับ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีผลต่อกันเป็นอย่างมาก ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว คงเคยได้ยินกันนะครับ
เหมือนเดิมครับ preparation ทุกอย่าง พร้อมแล้ว ก็ duck dive ลงไป ตัวหมุนควงเป็นสว่านเลยครับ ไม่ต้องคิดว่าเชือกจะอยู่ตรงไหนเลย (ยังไม่ถึงตอนเฉาก๊วยนะครับ Nippon เดี๋ยวเฉาก๊วยจะตามมา) ผมก็เลยไม่ลงไปต่อ สิ่งที่ instructor บอกก็คือ ผมเตะ fins ขาซ้ายกับขวาแรงไม่เท่ากัน
เอาใหม่ ลองใหม่ ทีนี้เฉาก๊วยครับ อันนี้เป็นศัพท์ของ Nippon นะครับ อยากรู้ไปถามกันเอาเอง ว่ามีความเป็นมาอย่างไร instructor บอกว่าเกิดจาก too rush คือรีบ และแรงเกินไปในการทำ duck dive ต้อง smooth and gentle ครับ ต้องฝึกหลายครั้งเลยครับกว่าจะทำได้สวยงาม ซึ่งผมค้นพบเทคนิคแล้วครับ คือต้องใช้มือช่วยใน stroke แรกจนขาพ้นน้ำก็ค่อยเตะฟินนั่นเอง
เทคนิคสำคัญที่ต้องฝึกก็คือ หลังจากที่ duck dive แล้ว ก็ต้องเอี๋ยวตัวหรือบิดตัวไปหาเชือก มองเชือกตลอด แบบ stream line เช่นเดิมคือ ไม่แหงะ หน้าไปมองพื้น ตัว vertical ดิ่งลง และเตะ fins อย่างถูกต้อง คือ symetry สลับซ้ายขวา ทั้ง forward และ backward ให้กว้างเท่าๆ กัน พร้อมกับการ clear ถี่ๆ ไปตลอดทาง พูดแล้วเหมือนง่ายนะครับ แต่การที่จะฝึกได้อย่างนี้ก็ต้องซ้อมบ่อยๆ ครับ ผมก็ทำอยู่หลายทีจนกว่า Richard จะบอกว่าใช้ได้ OK จึงได้หยุด ไม่เฉาก๊วยแล้วนะครับ Nippon (แต่ไม่แน่ เวลาไปโชว์ที่แสมสารแล้ว อาจเฉาก๊วยอีกก็ได้ จะพยายามครับ ไม่งั้นก่อนไปแสมสารคราวหน้า ต้องกินเฉาก๊วยก่อนไปเพื่อแก้เคล็ดซะแล้ว)
อีกประเด็นที่สำคัญที่ผมต้องแก้สำหรับ CWT ก็คือกลับตัว และการขึ้นสู่ผิวน้ำ การกลับตัวคือเมื่อสุดปลายเชือกแล้ว เราสามารถคว้าเชือกได้ 1 ครั้ง ส่งที่เราควรทำก็คือการสาวเพื่อดึงตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำให้ได้ระยะทางมากที่สุด จะได้ไม่ต้องเตะ fins มากนั่นเอง ส่วนการขึ้นสู่ผิวน้ำมีหัวใจที่สำคัญสองประการคือ stream line คือไม่แหงนหน้า ตามองเชือกตลอดเวลา และการต้องฝีกให้รับรู้ได้ว่า เมื่อไรคือจุดที่ตัวเราจะเป็น possitive ซึงเป็นจุดที่เราไม่ต้องเตะ fins ในการทำให้ตัวลอยขึ้นมาอีกต่อไป ตัวเราจะลอยขึ้นไปเอง ซึ่งจุดนี้คือการ save หรือลดการ consoume O2 นั่นเอง และเป็นช่วงที่ relax ที่สุด เข้าใจว่าน่าจะเป็นประมาณ 10 เมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นจุดที่เราจะได้พบกับ buddy ที่มาคอย safty เราขึ้นสู่ผิวน้ำ ตาสบตากันไปตลอดทาง ถ้าคนที่เป็น buddy กันเป็นแฟนกันอยู่แล้วก็น่าจะดีมากๆ เลยนะ อิจฉาคู่ที่อยู่ line ข้างๆ จังเลย
ghostpipe- จำนวนข้อความ : 210
Join date : 17/08/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
My PB CWT
หลังจากฝึกซ้อมจนเป็นที่พอใจของ instructor แล้ว ผมก็ได้รับอนุญาตให้ทำในสิ่งที่ผมทั้งรอคอยและแอบหวั่นใจอยู่เงียบๆ คนเดียวอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เริ่มจากความลึกที่ไม่มากนักก่อน ก็ผ่านไปด้วยดี จากนั้นก็เพิ่มความลึกไปที่ละน้อย แต่ทุกครั้งที่ทำก็คือ ต้องทบทวนทุกขั้นตอนให้ถูกต้องเสมออย่างที่เขียนไว้ในตอนต้นแล้วครับ เข้าใจว่าเมื่อผมซ้อมไปมากๆ เข้า ก็คงจะเป็นอัตโนมัติและไม่ต้องคิดอีกต่อไป สุดท้ายผมก็สามารถลงไปได้ลึกจนถึงจุดที่เป็น PB หรือ personal best คือลึกสุดเท่าที่เคยทำได้แล้ว และก็ลึกถึงระดับที่เป็น requirment ของการเรียนในระดับนี้แล้ว ทำให้ความกังวลต่างๆ หายไปแล้ว ซึ่งผมก็พอรู้อยู่กลายๆ ว่า สอบผ่านแล้วเรา
Safty and Rescue
หลังจากผ่าน CWT แล้ว ผมก็ต้องฝึกทักษะการ safty และ rescue ให้ buddy ของเรา กรณีแรกผมต้องเรียนรู้จังหวะว่าเมื่อไรจึงจะดำลงไปรอเพื่อนเราที่ความลึก 10 เมตร และกลับขึ้นสู่ผิวน้ำพร้อมกัน ต้องไม่ดำลงไปรอนานเกินไป เพราะเราอาจหมดลมก่อนที่เพื่อนจะขึ้นมา และต้องไม่ดำลงไปช้าเกินไป ซึ่งเพื่อนอาจมีปัญหาก่อนเราดำลงไปถึงก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ เช่นกัน ผมก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับทักษะนี้ จากนั้นก็เป็นการ rescue กรณีที่ buddy เรามีปัญหาใต้น้ำ ซึ่งก็คือการ black out อันนี้ก็สำคัญครับ ลงไปลากเพื่อนเราขึ้นมาสู่ผิวน้ำให้ได้อย่างปลอดภัยที่ระดับ 10 เมตรเหมือนกัน ผมก็ผ่านได้ด้วยดีเช่นกัน
เสร็จจากทักษะต่างๆ ทีนี้ก็เป็นการลองดำให้ลึกมากยิ่งขึ้น ทีนี้พอจะพยายามดำลงไปก็พบว่าหูมันสั่งเราว่าพอแล้ว คือ clear ไม่ได้แล้ว ผมก็เลยหยุดการฝึก CWT สำหรับวันนี้แต่เพียงเท่านี้
เวลาที่เหลือก็ซ้อม duck dive ให้ดีขึ้นไม่เป็นเฉาก๊วยอีกต่อไปแล้วครับ
Conclusion
จะเห็นได้ว่านอกจาก relaxation แล้ว แต่ละ discipline หรือ skill ก็มีรายละเอียดที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำการเรียนรู้และฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญความปลอดภัยที่ต้องควบคู่กันไปตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เราต้องฝึกกับ instructor ที่มีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วเท่านั้น พวกเราคงช่วยได้แค่เมื่อไปเรียนมาแล้วก็มาเป็นเพื่อนซ้อม และช่วยกันแนะนำในการฝึกและการปรับปรุงเท่านั้น และทักษะที่สำคัญต่อความปลอดภัยในวันนี้ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ stay close to the line, it is your friend.
ระหว่างทางกลับลันตา เราผ่านการสอบข้อเขียนกันทุกคน สำหรับผมจริงๆ แล้วสามารถกลับบ้านได้แล้ว คือผ่านข้อกำหนดของ course แล้ว แต่ผมอยากมีโอกาสที่จะได้ฝึกให้มากขึ้นไหนๆ ก็เสียเงิน เสียเวลาลงมาตั้งไกลแล้ว อีกทั้งยังมี instructor ที่คิดว่าจริตตรงกันแล้วอีก อยู่ต่ออีกวันน่าจะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น คิดว่าพรุ่งนี้คงสนุกมากขึ้นครับ
พบกันใหม่นะครับ
หลังจากฝึกซ้อมจนเป็นที่พอใจของ instructor แล้ว ผมก็ได้รับอนุญาตให้ทำในสิ่งที่ผมทั้งรอคอยและแอบหวั่นใจอยู่เงียบๆ คนเดียวอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เริ่มจากความลึกที่ไม่มากนักก่อน ก็ผ่านไปด้วยดี จากนั้นก็เพิ่มความลึกไปที่ละน้อย แต่ทุกครั้งที่ทำก็คือ ต้องทบทวนทุกขั้นตอนให้ถูกต้องเสมออย่างที่เขียนไว้ในตอนต้นแล้วครับ เข้าใจว่าเมื่อผมซ้อมไปมากๆ เข้า ก็คงจะเป็นอัตโนมัติและไม่ต้องคิดอีกต่อไป สุดท้ายผมก็สามารถลงไปได้ลึกจนถึงจุดที่เป็น PB หรือ personal best คือลึกสุดเท่าที่เคยทำได้แล้ว และก็ลึกถึงระดับที่เป็น requirment ของการเรียนในระดับนี้แล้ว ทำให้ความกังวลต่างๆ หายไปแล้ว ซึ่งผมก็พอรู้อยู่กลายๆ ว่า สอบผ่านแล้วเรา
Safty and Rescue
หลังจากผ่าน CWT แล้ว ผมก็ต้องฝึกทักษะการ safty และ rescue ให้ buddy ของเรา กรณีแรกผมต้องเรียนรู้จังหวะว่าเมื่อไรจึงจะดำลงไปรอเพื่อนเราที่ความลึก 10 เมตร และกลับขึ้นสู่ผิวน้ำพร้อมกัน ต้องไม่ดำลงไปรอนานเกินไป เพราะเราอาจหมดลมก่อนที่เพื่อนจะขึ้นมา และต้องไม่ดำลงไปช้าเกินไป ซึ่งเพื่อนอาจมีปัญหาก่อนเราดำลงไปถึงก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ เช่นกัน ผมก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับทักษะนี้ จากนั้นก็เป็นการ rescue กรณีที่ buddy เรามีปัญหาใต้น้ำ ซึ่งก็คือการ black out อันนี้ก็สำคัญครับ ลงไปลากเพื่อนเราขึ้นมาสู่ผิวน้ำให้ได้อย่างปลอดภัยที่ระดับ 10 เมตรเหมือนกัน ผมก็ผ่านได้ด้วยดีเช่นกัน
เสร็จจากทักษะต่างๆ ทีนี้ก็เป็นการลองดำให้ลึกมากยิ่งขึ้น ทีนี้พอจะพยายามดำลงไปก็พบว่าหูมันสั่งเราว่าพอแล้ว คือ clear ไม่ได้แล้ว ผมก็เลยหยุดการฝึก CWT สำหรับวันนี้แต่เพียงเท่านี้
เวลาที่เหลือก็ซ้อม duck dive ให้ดีขึ้นไม่เป็นเฉาก๊วยอีกต่อไปแล้วครับ
Conclusion
จะเห็นได้ว่านอกจาก relaxation แล้ว แต่ละ discipline หรือ skill ก็มีรายละเอียดที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำการเรียนรู้และฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญความปลอดภัยที่ต้องควบคู่กันไปตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เราต้องฝึกกับ instructor ที่มีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วเท่านั้น พวกเราคงช่วยได้แค่เมื่อไปเรียนมาแล้วก็มาเป็นเพื่อนซ้อม และช่วยกันแนะนำในการฝึกและการปรับปรุงเท่านั้น และทักษะที่สำคัญต่อความปลอดภัยในวันนี้ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ stay close to the line, it is your friend.
ระหว่างทางกลับลันตา เราผ่านการสอบข้อเขียนกันทุกคน สำหรับผมจริงๆ แล้วสามารถกลับบ้านได้แล้ว คือผ่านข้อกำหนดของ course แล้ว แต่ผมอยากมีโอกาสที่จะได้ฝึกให้มากขึ้นไหนๆ ก็เสียเงิน เสียเวลาลงมาตั้งไกลแล้ว อีกทั้งยังมี instructor ที่คิดว่าจริตตรงกันแล้วอีก อยู่ต่ออีกวันน่าจะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น คิดว่าพรุ่งนี้คงสนุกมากขึ้นครับ
พบกันใหม่นะครับ
ghostpipe- จำนวนข้อความ : 210
Join date : 17/08/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
อ่านแล้วกระตุ้นความอยากอย่างมากเลยครับ พี่ชัช
แต่ผมยังไม่มีเวลาไปเรียนเลย กาแฟเป็นพิษ (สร้างร้านกาแฟอยู่ครับ ต้องเปิดก่อนปีใหม่ 9 สาขา T-T)
ศุกร์นี้ก็ต้องไปจีน ไปทนหนาวเืกือบ 0 องศา
โอย อยากดำน้ำตัวเปล่า... miss u summer
แต่ผมยังไม่มีเวลาไปเรียนเลย กาแฟเป็นพิษ (สร้างร้านกาแฟอยู่ครับ ต้องเปิดก่อนปีใหม่ 9 สาขา T-T)
ศุกร์นี้ก็ต้องไปจีน ไปทนหนาวเืกือบ 0 องศา
โอย อยากดำน้ำตัวเปล่า... miss u summer
a-bad- จำนวนข้อความ : 49
Join date : 24/08/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
คุณghostpipe ขับกลับ OKไม๊?? ส่วนเรื่องการผจญภัยทั้งหมดที่คุณghostpipe เขียน น่าย้ายไป (lets Learn) นะ คุณa-bad มัวเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เดี๋ยวตัวแห้งหมดนะ
Mee+- จำนวนข้อความ : 105
Join date : 24/08/2009
ที่อยู่ : Bangkok
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
เห็นด้วยครับพี่ รับทราบ และปฏิบัติครับ
ghostpipe- จำนวนข้อความ : 210
Join date : 17/08/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
อ่านประสบการ์ของคุณ ghostpipe แล้ว
ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ ว่ามะไหรจะได้ไปเรียนบ้าง
ว่าแต่ ช่วงนี้มีใครได้ไปซ้อมที่สระเอกมัยบ้างมั้ยครับผม?
ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ ว่ามะไหรจะได้ไปเรียนบ้าง
ว่าแต่ ช่วงนี้มีใครได้ไปซ้อมที่สระเอกมัยบ้างมั้ยครับผม?
พรุนยักษ์- จำนวนข้อความ : 13
Join date : 28/10/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
นางเงือกทั้งสองขยันซ้อมอยู่แล้ว ถ้าไปเช้าวันอาทิตย์7:00 ได้เจอแน่นอน ถ้าคุณพรุนฯจะไปแน่ๆ กลัวไม่เจอใคร ผมจะไปรอรับเช้าวันอาทิตย์ที่20สระบ้านกล้วย
Mee+- จำนวนข้อความ : 105
Join date : 24/08/2009
ที่อยู่ : Bangkok
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
พอดีอาทิตย์นี้ไม่อยู่ครับ แต่วันเสาร์ผมจะไปซ้อมดูละกันครับ ไม่ได้ซ้อมหลาย week ละ
พรุนยักษ์- จำนวนข้อความ : 13
Join date : 28/10/2009
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
ตามใจ ได้เลย วันเสาร์นี้ผมทำงาน
Mee+- จำนวนข้อความ : 105
Join date : 24/08/2009
ที่อยู่ : Bangkok
Re: AIDA ** Day 2: Line is Your Friend
อ่อ อ่านผิดครับถ้าพรุ่งนี้ไม่มีคนไป งั้นผมไม่ไปด้วยฮ่าๆ ขี้เกียจล่ะครับ
ขอผลัดไปก่อน
ขอผลัดไปก่อน
พรุนยักษ์- จำนวนข้อความ : 13
Join date : 28/10/2009
Similar topics
» ประเภทการแข่งขัน(AIDA)
» AIDA** Day 1: Relaxation is the key, security is the need
» AIDA*** Day 1: The Journey Begin => what is the Free Fall?
» AIDA*** Day 2: Free Fall to maximum depth
» AIDA ** Day 3: A Lesson Learned for Life
» AIDA** Day 1: Relaxation is the key, security is the need
» AIDA*** Day 1: The Journey Begin => what is the Free Fall?
» AIDA*** Day 2: Free Fall to maximum depth
» AIDA ** Day 3: A Lesson Learned for Life
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|